Web 1.0 ผู้คนเริ่มเข้ามาหาข้อมูล มีการโต้ตอบผ่าน Webboard กันเอง เพียงแค่เว็บไซต์ที่แสดงผลเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบโต้กับผู้ใช้งานได้ เว็บไซต์ถูกสร้างด้วยภาษา HTML แสดงผลข้อความรูปภาพเท่านั้น
Web 2.0 ได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและข้อมูลของผู้ใช้ถูกเก็บไว้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเพื่อนำไปใช้หาประโยชน์ รวมไปถึงการปิดกั้น ติดตามและควบคุมข้อมูลจากหน่วยงานของภาครัฐซึ่งขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนควรมีเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน
Web 3.0 จะเกิดปฏิสัมพันธ์ในโลกเสมือนจริงที่มากขึ้นกว่าเดิม ผู้คนจะครองการควบคุมข้อมูลของเราเอง และจะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการติดต่อสื่อสารผ่านทาง Social media และ Ecommerce ที่สำคัญ ผู้คนต้องการในลักษณะของ Personalized คือจะมีการบันทึกในทุกกิจกรรมของ User ในรูปแบบ Blockchain นั้นเองค่ะ ข้อมูลดังกล่าว กลุ่มบริษัทใหญ่ๆ ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป การใช้ Web 3.0 จะเปิดโอกาสให้ผู้คนในโลกมีข้อมูลในมือในระดับพอๆกัน จะได้ไม่ต้องเสียเปรียบองค์กรใหญ่ๆ อีกต่อไปแล้วค่ะ
ยุคนี้ อยู่ที่การขับเคลื่อนเทคโนโลยี พัฒนา Platform อยู่ในระหว่าง Metaverse กับ Web 3.0 ที่สำคัญอยู่ที่นักลงทุนปรับไปทิศทางใดนะคะ ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนต้องการพัฒนา คริปโต หรือ เข้ารูปแบบ Metaverse สร้างโลกของเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ในโลกเสมือนจริงเป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็นและทำในสิ่งที่คุณอย่างจะทำผ่านแว่นตา VR และ AR Web 3.0 จะพบว่าโลก Metaverse คือ ยุคใหม่ของเว็บไซต์ที่เปลี่ยนการแสดงผลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นโลกเสมือนจริงที่เชื่อมผู้ใช้งานเข้าหากัน เมื่อผู้คนถูกเชื่อมต่อผ่านโลกเสมือนจริงจำเป็นต้องใช้การยืนยันตัวตนความถูกต้องของข้อมูลและเกิดกิจกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนบนโลกเสมือนจริงค่ะ
Facebook รีแบรนด์ มาเป็น Meta เริ่มสร้าง โลก Metaverse ต้องพึ่ง Web 3.0 จะทำให้ผู้ใช้งาน Social media ไม่ต้องข้าม Platform อีกต่อไปค่ะ แต่จะต้องประสานให้เป็นหนึ่งเดียว จาก User เดียวเท่านั้น ที่สามารถเชื่อมต่อ บริการ Social ไปยัง Social หนึ่งได้ แบบอย่างไร้รอยต่อเลยทีเดียว